วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

ขอแจ้งข่าวสัมมนา ฟรี 

หลักสูตร: เทคโนโลยีการขึ้นรูปพลาสติกโดย

“In-Mold Labeling”
In-mold labeling (IML) นับเป็นหนึ่งในเทคนิคการขึ้นรูปและตกแต่งบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน วิธีการนี้บรรจุภัณฑ์จะถูกขึ้นรูปและตกแต่งสำเร็จได้ในขั้นตอนเดียว ทั้งนี้การจะนำเทคนิค IML ไปใช้งานจริง จำเป็นต้องใช้ความรู้พื้นฐานทางด้าน Blow molding หรือ Injection molding, Mold design และ Automation ร่วมกัน โดยการขึ้นรูปชิ้นงานโดยวิธี IML นี้ ก่อนอื่น Label จะถูกนำไปวางไว้ในแม่พิมพ์โดยใช้ Robot เป็นตัวช่วย จากนั้นพลาสติกเหลวจะถูกฉีดเข้าไปในแม่พิมพ์ โดยในขั้นตอนนี้ Label จะถูกเชื่อมติดแน่นเป็นเนื้อเดียวกันกับบรรจุภัณฑ์ในระหว่างกระบวนการเป่า หรือกระบวนการฉีด หลังจากนั้น Label จะไม่สามารถหลุดลอกออกจากบรรจุภัณฑ์ได้อีก
ข้อดี ของการขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์ด้วยวิธีนี้คือ เป็นการลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งลดปริมาณการใช้เนื้อวัสดุลง ลดต้นทุนในการขนส่งและจัดเก็บรักษาบรรจุภัณฑ์ก่อนที่จะมีการบรรจุผลิตภัณฑ์ ความแข็งแรงและความสวยงามของบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น การ Recycle บรรจุภัณฑ์ IML ก็ทำได้ง่ายกว่า เนื่องจาก Label ที่ใช้เป็นวัสดุชนิดเดียวกันกับบรรจุภัณฑ์

วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

Injection Mold Technology


การแบ่งชนิดของแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก Type of Mold
     กระบวนการขึ้นรูปพลาสติกให้เป็นชิ้นงาน  (Molding)  โดยการใช้แม่พิมพ์ฉีด   (Injection Molding) เป็นกระบวนการที่ใช้กันมาก เมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการขึ้นรูปวิธีอื่น จุดประสงค์ของการใช้แม่พิมพ์ (Mold) คือการทำให้พลาสติกที่ถูกฉีดออกจากเครื่องฉีดเข้าสู่แม่พิมพ์ (Mold) สามารถเกิดเป็นรูปร่างตามที่ต้องการได้แต่เนื่องจากรูปร่างของชิ้นงานทั่วไปมีความหลากหลาย ดังนั้นจึงต้องออกแบบแม่พิมพ์ฉีดให้สามารถรองรับการขึ้นรูปชิ้นงานเหล่านั้นได้โดยทั่วไปแม่พิมพ์ฉีดสามารถแบ่งออกเป็นชนิดต่าง ๆ ได้ดังนี้
1. Standard mold or Two plate mold
2. Stripper mold
3. Mold designed for cutting off molding
4. Slide mold
5. Split-cavity mold
6. Unscrewing mold
7. Three plate mold
8. Stack mold
9. Insulated-runner mold
10. Hot-runner mold
11. Special mold

   1. Standard Mold or Two – Plate Mold
         Two – Plate  Mold  หรือแม่พิมพ์ฉีดแบบสองแผ่นเป็นแม่พิมพ์ชนิดแรกที่มีการนำมาใช้ในการขึ้นรูปพลาสติกโดยรูปร่างชิ้นงานจะถูกสร้างเป็นร่องรอยให้ปรากฏอยู่กับส่วนประกอบที่สำคัญ  2  ส่วนคือ  ส่วนที่เป็นแผ่นคอร์  (Core  Plate)  และส่วนที่เป็นแผ่นเบ้า  (Cavity  Plate)  ซึ่งชิ้นงานที่จะขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ชนิดนี้จะเป็นชิ้นงานที่มีรูปร่างไม่ซับซ้อน  เช่นไม่มีร่องหรือบ่า  ไม่มีเกลียว  โดยเป็นชิ้นงานที่สามารถดึงออกจากแม่พิมพ์ได้เลยเมื่อแม่พิมพ์เปิดออก  (Mold  Open)
โดยปกติถ้าชิ้นงานเป็นรูปทรงตันแม่พิมพ์จะมีเฉพาะส่วนที่เป็นแผ่นเบ้า (Cavity  Plate)  เท่านั้น  ส่วนแผ่นคอร์  (Core  Plate)  จะไม่มี  แต่จะมีแผ่นแบนเรียบ  (Plain  Plate)  มาประกอบแทน  แต่ถ้ารูปทรงชิ้นงานจะต้องปรากฏเป็นรูปทรงภายนอกและรูปทรงภายในเมื่อไหร่  แม่พิมพ์จึงจะมีแผ่นคอร์  (Core  Plate)  เข้ามาประกอบเพราะจะเป็นส่วนที่ทำให้ชิ้นงานเกิดเป็นรูปทรงภายในขึ้นมา  แม่พิมพ์ทั้งสองส่วนนี้  เมื่อผนึกเข้าหากันเป็นแม่พิมพ์ฉีดจะปรากฏเส้นแบ่งผิว  (Parting  Line)  เพียง  เส้น  เท่านั้นหรือในกรณีที่แม่พิมพ์ฉีดแยกออกจากกันก็จะแยกตรงบริเวณที่เป็นหน้าสัมผัส  ระหว่างแผ่นคอร์  (Core  Plate)  กับแผ่นเบ้า  (Cavity  Plate)  ทำให้เกิดเป็นช่องเปิดเพื่อนำชิ้นงานออกมา  เพียง  ช่องเท่านั้นหรืออาจเรียกว่า  1  Daylight

โครงสร้างพื้นฐานและชื่อชิ้นส่วน (Basic Structure)




.......วันนี้ขอค้างไว้แค่นี้ก่อนครับแล้วเดี๋ยวเรามาดูว่า Stripper Mold ทำงานอย่างไร......